ตัดแว่นที่ญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่

ขอท้าวความก่อนนะคะว่า ตัวเองสายตาดีมาตลอด คือไม่เคยใส่แว่น ไม่เคยใส่คอนแทคเลนส์เลยยยยย 👓 แต่พอถึงช่วงปั่นวิทยานิพนธ์ปริญญาโท โอ้โหหหห เช้า กลางวัน เย็นคืออยู่หน้าคอมตลอด คิดว่า 18 ชั่วโมงต่อวันค่ะ 😂😂 ยิ่งช่วงสัปดาห์สุดท้าย ยิ่งหนักกว่าเดิม จนมารู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่าตาเบลอ โดยเฉพาะตาขวา ตาซ้ายนี่ยังไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่ด้วยความไม่เคยสายตาสั้นมาก่อนเลยงง ๆ ว่า
นี่ฉันสายตาสั้นหรือแค่ตาฉันเบลอ😵
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่คิดไปตัดแว่นทันทีนะคะ รอค่ะ นึกว่าจะหาย 😂 แต่อาการเริ่มหนักเวลาเข้าเมืองแล้วเจอป้ายเยอะ ๆ ค่ะ มันเบลอข้างชัดข้างจนเราเหมือนเมาตา (?) 😂 เราก็เลยตัดสินใจไปตัดแว่น หลังจากนึกว่าตาจะกลับมาชัดเหมือนเดิม(ประมาณ 8 เดือนค่ะ TT)

Credit :: Zoff.co.jp
ร้านที่เราตัดสินใจไปตัดค่ะ ชื่อ Zoff เป็นบ.ญี่ปุ่นค่ะ
ที่เราตัดสินใจไปตัดที่ร้านนี้เพราะ
1.ใกล้บ้าน มีสาขาเยอะมากค่ะ
(237 สาขา💙แต่น้อยกว่า JINS 😂)
2.เราได้คูปองลดราคา 1000 เยนจากไลน์ออฟฟิเชียลของทาง Zoff ค่ะ กรี๊ดมาก 😍😍
พอตัดสินใจแล้วว่าจะตัดร้านนี้ เราก็ไปที่ร้านกันเลยค่ะ

บรรยากาศในร้าน Zoff
ขั้นตอนในการตัดแว่นมีดังนี้ค่ะ💗

credit :: Zoff.co.jp
1.หากรอบแว่นที่ต้องการภายในร้านค่ะ จุดนี้พนักงานอาจจะยังไม่เข้ามาทัก ไม่ต้องตกใจนะคะ หากรอบที่ใช่กับใบหน้าเราไปแบบสบาย ๆ ได้เลยค่ะ ขอบอกเลยว่ามีให้เลือกเยอะมาก หลายคอลเลคชั่น มีหลายแบบหลายสไตล์ เรียกได้ว่าเลือกจนตาลายไปเลยค่ะ เราเองเดินเกือบ 20 นาทีแน่ะ กว่าจะได้กรอบที่ถูกใจ และสิ่งที่เห็นแล้วทำให้เราแอบอมยิ้ม น่าจะเป็นป้ายเล็ก ๆ ที่จะเขียนไว้ว่าหน้าทรงไหนเหมาะกับแว่นแบบไหน ช่วยได้มากกับการเลือกแว่นให้เข้ากับหน้าค่ะ ในส่วนของราคากรอบแว่นเริ่มต้นที่ประมาณ 4400 เยนค่ะ (ของเด็กเริ่มที่ 3000 เยนค่ะ💗)
★ข้อควรระวัง★
หากกรอบแว่นที่เลือกเป็นแว่นกันแดด จะต้องเสียค่าตัดเลนส์เพิ่มนะคะ

2.พอได้กรอบที่ถูกใจแล้ว ก็ไปที่เคาน์เตอร์ค่ะ แล้วบอกพนักงานว่า
めがねをつくりたいです(เมะกะเนะ โอะ ทสึคุริไต เดส)และหลังจากนั้นพนักงานจะถามเราว่า “ต้องการวัดสายตาไหม” นะคะ คำว่าวัดสายตาในภาษาญี่ปุ่นคือ 視力測定 (ชิรโยคุโซะคุเท) ถ้าต้องการวัดสายตาด้วยก็บอกไปว่า 視力測定もお願いします (ชิรโยคุโซะคุเท โมะ โอเนะไกชิมัส)
★คำแนะนำ★
ถ้าพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ บอกพนักงานไปเลยว่า
日本語話せないです
(นิฮงโกะ กะ ฮานะเซไน่เดส)
หรือ I can’t speak Japanese ก็ได้ค่ะ
เพราะที่นี่มีบริการล่ามออนไลน์ถึง 10 ภาษา ตลอด 365 วันค่ะ

credit :: Zoff.co.jp
3. หลังจากนั้นพนักงานจะถามว่าเราเป็นเมมเบอร์ของทางร้านหรือยัง ถ้ายังก็จะให้เรากรอกข้อมูลในแทบเล็ต ข้อมูลที่กรอกก็จะมีประมาณ ชื่อ ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทร (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) พอกรอกเสร็จแล้วก็รับบัตรคิว แล้วนั่งรอวัดสายตาได้เลยค่ะ 😀

วัดในเครื่องแบบนี้ค่ะ
4.พอถึงคิวเราแล้ว พนักงานจะเรียกเราไปวัดสายตาที่เครื่องวัด หากใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อยู่ก็ให้ถอดออกด้วยนะคะ(ถ้าไม่ได้พกตลับใส่คอนแทคเลนส์ไปด้วยไม่ต้องกังวลไปนะคะ ที่นี่เขามีเตรียมให้ค่ะ) พอเอาหน้าวางที่เครื่องปุ๊ป พนักงานก็จะบอกให้เราหลับตาข้างซ้ายแล้วลองอ่านตัวหนังสือที่ปรากฎในเครื่อง พออ่านเสร็จพนักงานก็จะสลับเลนส์ให้เราใส่เพื่อดูว่าสายตาเราต้องใช้เลนส์ไหน ผลสรุปที่ออกมาคือตาขวาเราสั้นกว่าตาซ้ายค่ะ
ปล.ตอนที่เราได้วัดสายตาเป็นตัวฮิรากะนะค่ะ ก็แอบกังวลเล็กน้อยว่าถ้าคนที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้มาวัดจะทำยังไงเนี่ย แต่พอทราบว่าที่นี่มีบริการล่ามก็อุ่นใจค่ะ สำหรับคนที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ตัวที่ให้อ่านอาจจะไม่ใช่ตัวอักษร อาจจะเป็นตัว C แบบในรูปด้านล่างค่ะ 🙂

สมัยเรียนเราก็เคยวัดแบบนี้เหมือนกัน เอาซะงงเลย ซีหันซ้ายหันขวา 😂
ค่าการวัดสายตาของที่นี่ไม่ได้วัดเป็น 100 200 แบบไทยนะคะ วัดเป็นจุดทศนิยมเลยค่ะ เช่น
หากสายตาปกติจะเป็น 0
สายตาสั้นจะเป็น -0.25~
สายตายาวจะเป็น +0.25~
บางท่านอาจจะเคยวัดที่ไทยมาแล้ว แต่เราว่าเพื่อความชัวร์ วัดไว้ก็ดีนะคะ 😀

credit :: Zoff.co.jp
5.พอวัดเสร็จแล้ว พนักงานจะให้เราไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง เพื่อทำการชำระค่าใช้จ่าย ในขั้นตอนนี้เราสามารถเลือกเลนส์กันแสงสีฟ้าได้นะคะ โดยที่ร้าน Zoff จะมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่
1. แบบตัดแสง 35% (ตัวเลนส์จะมีสีหม่นนิด ๆ แต่ไม่มากค่ะ ถ้าไม่วางกับสีขาวอาจจะไม่รู้)
2.แบบตัดแสง 50% (ตัวเลนส์จะออกไปทางสีเหลือง เห็นได้ชัดหน่อย แต่ก็ไม่น่าเกลียดค่ะ)
ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ !! ใช่แล้วค่ะ จ่ายแค่ค่ากรอบก็พอค่ะ ><
ของเราค่ากรอบ 5500 เยน ใช้คูปอง 1000 เยน ลดเหลือ 4400 เยน หรือประมาณ 1350 บาทค่ะ 😍💗 พอจ่ายเงินเสร็จ พนักงานจะแจ้งว่าต้องใช้เวลารอเท่าไหร่ แล้วให้ใบนัดมาค่ะ หากมีเลนส์ในสต็อกก็อาจจะใช้เวลารอประมาณ 30 นาที แต่ถ้าไม่มีอาจจะต้องนัดรับวันอื่นแทนค่ะ

ด้านซ้ายเป็นแบบ 35% ด้านขวาเป็นแบบ 50% จะเห็นได้ว่าต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีเลนส์อีกมากมายให้เลือก อย่างภาพนี้คือเลนส์สำหรับกันฝ้าขึ้นแว่น
เหมาะกับช่วงที่ต้องใส่มาส์กมาก ๆ เลยค่ะ(เลนส์นี้ 3300 เยนค่ะ)
credit :: Zoff.co.jp
6.พอถึงเวลานัดก็เอาใบนัดไปยื่นให้พนักงาน (ถ้าคิวเยอะอาจจะต้องรออีกนิด) แล้วพนักงานจะนำแว่นออกมาปรับระดับให้เข้ากับรูปหน้าและใบหูของเราค่ะ เมื่อปรับระดับเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเลือกกล่องแว่น กล่องแว่นที่นี่มีให้เลือกถึง 10 แบบด้วยกันค่ะ มีทั้งแบบเป็นเคสหนังอ่อน ๆ เคสแข็งปานกลาง เคสแข็งมากกก แล้วมีให้เลือกหลายแบบและหลายสีด้วยค่ะ 😂😂

แว่นกับผ้าเช็ดแว่นที่มาพร้อมกล่องค่ะ

เราเลือกแบบเคสแข็งปานปลาง พกง่ายดีค่ะ
โดยรวมแล้วเราให้คะแนนเต็มกับทั้งราคา การบริการและความไวค่ะ ถ้าใครที่กำลังมองหาร้านแว่นที่ราคากำลังพอดีแถมมีบริการดีเยี่ยม แนะนำให้ลองไปที่ Zoff สาขาใกล้ ๆ บ้านดูนะคะ💗💗
อ่านบทความสร้างแรงบรรดาลใจดี ๆ ได้ที่นี่